แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ OSIM Thai แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ OSIM Thai แสดงบทความทั้งหมด

7.27.2559

ส้นสูงสวย สุขภาพเสีย


รองเท้าส้นสูง ใส่สวยแต่สุขภาพเสีย!

ถึงแม้การใส่รองเท้าส้นสูง จะทำให้สาวๆ ดูสวยสง่า มากขึ้น 
แต่ก็แอบแฝงอันตรายที่ทำร้ายสุขภาพอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

หน้าอก 
เมื่อใส่ส้นสูง สาวๆจะดูเซ็กซี่ขึ้น เพราะต้องแอ่นหลังให้ตรงเป็นเวลานานๆ 
ทำให้เกิดอาการปวดบริเวณรอบอก และหลังส่วนกลางได้

กระดูกสันหลัง
เมื่อต้องส้นสูงเป็นเวลานานๆ 
อาจทำให้เกิดอาการกระดูกสันหลังเคลื่อนไปทับเส้นประสาทเมื่ออายุมากขึ้น

สะโพก
กล้ามเนื้อบริเวณสะโพกและเส้นเอ็นบริเวณสะโพกจะทำงานหนัก 
ส่งผลให้เกิดอาการปวดสะโพกได้

เข่า
เข่าเป็นข้อต่อที่ใหญ่ที่สุด 
และต้องรับแรงกระแทกที่เกิดจากการเดิน และการใส่รองเท้าส้นสูงบ่อย ๆ
 จะทำให้เกิดแรงดันจำนวนมากบริเวณเข่าด้านใน 
ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร

น่อง
การใส่ส้นสูง จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณน่องเกิดการหดเกร็งมากขึ้นขณะเดิน
 ทำให้เส้นเลือดดำบริเวณน่องไหลเวียนไม่สะดวกและกลายเป็นเส้นเลือดขอด 
รวมทั้งปัญหาน่องใหญ่ที่สาวไม่ชอบ 
เพราะการใส่รองเท้าส้นสูงจะทำให้กล้ามเนื้อน่องโป่งขึ้นอีกด้วย

ข้อเท้า
กล้ามเนื้อบริเวณข้อเท้าต้องรองรับน้ำหนักจากร่างกายมากขึ้น 
เพราะเมื่อสวมรองเท้าส้นสูง ข้อเท้าจะต้องงอไปด้านหน้าเพื่อให้เคลื่อนไหวได้สะดวก 
ทำให้เอ็นบริเวณข้อเท้าอักเสบ

เท้า
เท้าจะเป็นตัวรองรับแรงกระแทกและน้ำหนักของร่างกาย
แต่การใส่รองเท้าส้นสูงจะทำให้น้ำหนักทั้งหมดไปอยู่ที่บริเวณปลายเท้าและนิ้วเท้า 
ทำให้เกิดอาการกรูกเท้าผิดรูป รองเท้ากัด หรือเล็บเท้าคุด 






ดังนั้น OSIM แนะนำให้เท้าของสาวๆได้พักผ่อนด้วยการนวด 
ที่ช่วยผ่อนคลายและลดอาการปวดเมื่อยจากการใส่รองเท้าส้นสูง 
และพร้อมเฉิดฉายอยู่บนส้นสูงคู่โปรดอีกครั้งในวันรุ่งขึ้นนะคะ


ดูรายละเอียดหรือสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่

ติดตามโปรโมชั่นพิเศษที่ FACEBOOK FANPAGE








7.22.2559

ดอกมะลิ สัญลักษณ์วันแม่


"ดอกมะลิ" 
        สัญลักษณ์ วันแม่ 

        เมื่อถึงวันแม่ สิ่งที่เรานึกถึงอันดับแรกๆเลย คือ ดอกไม้สีขาวกลิ่นหอมเย็น  ดอกเล็กๆ ที่ความหมายไม่เล็กตามขนาด นั่นก็คือ ดอกมะลิ

        ดอกมะลิ เปรียบเสมือน ความปารถนาดีและรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูก ในวันแม่คนไทยจึงนิยมนำดอกมะลิ มาร้อยพวงมาลัยให้แม่  
นอกจากนี้ ดอกมะลิยังเป็นดอกไม้ที่มีอยู่ในเทศกาลวันสำคัญของคนไทยอีกมากมาย เช่น การร้อยพวงมาลัยบูชาพระ การนำดอกมะลิมาลอยน้ำเพื่อใช้รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ในวันสงกรานต์ หรือแม้แต้การทำอาหารคาวหวาน และยาบำบัดอาการเจ็บป่วยต่างๆ 





แต่ในปัจจุบัน การนำดอกมะลิมาปรุงอาหาร หรือยาต่างๆ ต้องมั่นใจว่า ดอกมะลิที่นำมาใช้ไม่ได้ฉีดยาฆ่าแมลงหรือ มีสารเคมีอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยของร่างกาย และไม่เป็นโทษต่อคนที่เรารักด้วยนะคะ 


         สำหรับวันแม่ปีนี้ OSIM แนะนำให้ลองบอกรักแม่ด้วยต้นมะลิแทนดอกมะลินะคะ เพราะต้นมะลิจะอยู่กับคุณแม่ได้นาน และเมื่อมีดอกยังนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆได้มากมาย แถมยังเป็นการปลูกต้นไม้ ช่วยให้โลกของเรามีสีเขียวเพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ 


แต่ถ้าให้ต้นมะลิแล้วยังไม่พิเศษพอ ลองเลือกเซทของขวัญสุดพิเศษจาก OSIM ได้ที่นี่นะคะ 

ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่นดีๆได้ที่



7.15.2559

"บุหลันดั้นเมฆ" ขนมไทยที่คนไทยลืม!!

"บุหลันดั้นเมฆ"

ขนมไทยที่หลายๆคนหลงลืมไป หรือบางคนไม่รู้จักด้วยซ้ำ 

"บุหลันดั้นเมฆ"
 เป็นขนมที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ในการปรุงแต่ง คือ 
น้ำลอยดอกมะลิ ที่ทำให้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ 
และใส่สีจากดอกอัญชัน 
จึงเป็นอีก 1 ขนมไทย 
ที่เหมาะกับการทำเป็นของขวัญ ของฝากให้ผู้ใหญ่มากๆเลยค่ะ 




ส่วนผสม ขนมบุหลันดั้นเมฆ


แป้งข้าวเจ้า1/2 ถ้วย

แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย กับอีก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำลอยดอกมะลิหอม ๆ 3/4 ถ้วย
ไข่ไก่ (เอาเฉพาะไข่แดง) 1 ฟอง
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
ดอกอัญชันหรือสีผสมอาหาร 1-2 หยด

วิธีทำ ขนมบุหลันดั้นเมฆ

เริ่มจากทำเมฆกันก่อนนะคะ 
1. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำตาลทรายให้เข้ากัน
2. ค่อย ๆ ใส่น้ำลอยดอกมะลิ นวดจนนิ่ม แล้วใส่น้ำลอยดอกมะลิที่เหลือจนหมด 
3.ใส่สีน้ำเงินจากดอกอัญชันหรือสีผสมอาหารคนให้เข้ากัน
4.เรียงถ้วยตะไลในลังถึง นำไปนึ่งในน้ำเดือด ๆ ราว 10 นาที 
5.นำแป้งที่ผสมมาคนให้แป้งเข้ากัน แล้วตักหยอดใส่ในถ้วยตะไลให้เต็ม ปิดฝาลังถึง นึ่งในน้ำเดือดพล่านนาน 3 นาที แล้วยกลงพักให้ถ้วยอุ่น ๆ 
6.หยิบถ้วยมาเทแป้งที่ยังไม่สุกออก ขนมจะเป็นรอยบุ๋มตรงกลาง ตอนนี้เราก็จะได้เมฆแล้วค่ะ

 คราวนี้มาทำบุหลันกันค่ะ
1. ผสมไข่แดงกับน้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลละลาย 
2. ตักหยอดในถ้วยขนมที่มีหน้าเป็นรอยบุ๋มให้เต็ม แล้วนำไปนึ่งไฟกลาง 10 นาที ยกลง 
3. พักไว้ให้เย็น จึงแซะออกจากถ้วย

คราวนี้เราก็ได้ บุหลันดั้นเมฆ ขนมไทยกลิ่นหอม น่ารับประทานเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ 
และช่วงเทศกาลวันแม่ ลองทำขนมไทยๆ ทานกับคุณแม่ที่บ้านก็เรื่องที่ดีนะคะ


หรือถ้าใครไม่ถนัดเรื่องในครัว อยากหาของขวัญดีๆให้คุณแม่จะแวะมาเลือกซื้อ ที่ OSIM ก็ได้นะคะ

ดูรายละเอียดสินค้าและโปรโมชั่นอื่นๆ 
หรือสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่ http://www.osim.com




6.29.2559

นวด ดีอย่างไร?


นวด นวด นวด 
นวดแล้วดี อย่างไร ? 


หลายๆคนก็คงรู้กันอยุ่แล้ว ว่า นวดช่วยคลายความปวดเมื่อยได้ แต่.. มันดีกว่านั้น!! 

1.นวดลดปวด สำหรับคนที่ปวดหัวไมเกรน เป็นประจำ คงรู้ซึ้งถึงความทรมานที่ต้องทนกับอาการปวด ถ้าได้ลองนวดติดต่อกันสัก 2-3 สัปดาห์ จะสามารถลดอาการปวดไมเกรนและ ทำให้เรานอนหลับได้สนิทขึ้นด้วยนะคะ

2.นวดบรรเทากล้ามเนื้ออักเสบ สำหรับใครที่ชอบออกกำลังกาย จะต้องเจออาการปวดเมื่อยจากกล้ามเนื้ออักเสบกันบ้างแน่นอน การนวดก็เป็นอีก 1 ทางเลือกที่ดี ในการบรรเทาอาการปวดเมื่อยเหล่านี้ได้นะคะ เพราะ การนวดจะช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดจากการออกกำลังกายได้ดีเทียบเท่าการรับประทานยาคลายกล้ามเนื้อยังไงยังงั้นเลยค่ะ

3.นวดลดอายุ เนื่องจากการนวด เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น จึงทำให้สุขภาพผิวของเราดีขึ้นตามไปด้วยนั่นเองค่ะ

4.ป้องกันอาการ PMS  การนวดตัวสามารถป้องกันอาการข้างเคียงทุกชนิดเวลาที่ผู้หญิงมีประจำเดือนได้อยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหลัง ปวดท้อง ตัวบวม น้ำหนักขึ้น หรืออาการหงุดหงิดฉุนเฉียว แต่วิธีนวดอาจจะได้ผลดีกับสาว ๆ ที่มีอายุตั้งแต่ 19-45 ปี เท่านั้นนะคะ

5.ลดอาการข้างเคียงจากโรคมะเร็ง ผลการวิจัยของ Memorial Sloan-Kettering Cancer Center in New York City ในปี 2004 เผยว่า ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่กระจาย จะทรมานจากอาการเจ็บปวดน้อยลง อาเจียนน้อยครั้ง หรือไม่อาเจียนเลย รู้สึกสดชื่นขึ้น ความดันดีมากกว่าเดิม และเครียดจากอาการป่วยน้อยลง หลังจากได้รับการบำบัดด้วยวิธีการนวด



เห็นแล้วใช่มั้ยคะ ว่าการนวดมีประโยชน์มากมายเลยค่ะ ดังนั้น ลองมองหาเก้าอี้นวดดีๆสักตัวเอาไว้ที่บ้าน ให้ทุกคนในครอบครัว ได้นวด และสุขภาพดีกันทุกคนนะคะ 



ดูรายละเอียด และติดตามโปรโมชั่นอื่นๆ หรือสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่ http://www.osim.com



6.14.2559

3 ท่า ออกกำลังกายบนเตียง




        เปลี่ยนเช้าวันใหม่ให้สดชื่นสดใสกันมากกว่าเดิม ด้วยการออกกำลังกายเบาๆ ที่ไม่ต้องออกไปวิ่งนอกบ้าน หรือรีบตื่นไปเข้า Fitness ตั้งแต่ไก่โห่ ลืมตาปุ๊ป!!! ก็นอนออกกำลังกายกันต่อได้เลย 



LEG CIRCLES

            คือ การนอนราบลงกับพื้น แล้วยกขาทั้ง 2 ข้างขึ้น จากนั้นใช้เท้าวาดรูปวงกลม โดยวาดตามเข็มนาฬิกา 10 ครั้ง สลับกับทวนเข็มนาฬิกา 10 ครั้ง ท่านี้จะทำให้หน้าท้องแข็งแรง และ Six Pack สวยๆ ก็จะตามมาด้วยค่ะ 












JACKKNIFE SIT-UP

            ท่านี้เริ่มจากการนอนราบที่พื้นเช่นกัน 
( หากไม่ได้ทำบนเตียง ให้หาเบาะออกกำลังกายมารองด้วยนะคะ  ไม่เช่นนั้นจะทำให้หลังของคุณบาดเจ็บซะก่อน ) เหยียดแขนขึ้นเหนือศรีษะ โดยวางแขนราบกับพื้น จากนั้น ค่อยๆยกขาขึ้น ทำมุมกับพื้น 45 องศา ดันลำตัวพร้อมๆกับยกแขนและขา ให้มือแตะบริเวณปลายเท้าค้างไว้ 1-2 วินาที (แต่ถ้าเริ่มทำใหม่ๆ จะแตะบริเวณหัวเข่าแบบในภาพก็ได้นะคะ)  กลับสู่ท่าเริ่มต้นแล้วทำซ้ำๆจนครบเซตที่ตั้งใจไว้



THE HALF BRIDGE
            "ท่าครึ่งสะพาน" ท่านี้เหมาะสำหรับสาวๆมากเลยล่ะค่ะ เพราะสามารถช่วยกระชับทั้งหน้าท้อง เนื้อใต้คาง และทรวงอกในเวลาเดียวกัน โดยเริ่มจากการนอนหงาย ชันเข่าขึ้น แล้วแยกเท้าออกจากกันประมาณช่วงสะโพก  ทิ้งน้ำหนัก ลงบนฝ่าเท้า ศรีษะ  และไหล่แขนเหยียดตรง หลังจากนั้น ดันตัวหรือยกสะโพกขึ้นให้หลังลอยสูงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ค้างไว้ 15 วินาที ลดตัวลง กลับสู่ท่าเริ่มต้น แล้วทำซ้ำไปเรื่อยๆ





        ทั้ง 3 ท่านี้ จะทำก่อนนอนหรือหลังตื่นนอนก็ได้นะคะ เพียงแค่หมั่นออกกำลังกายทุกวัน วันละนิด ก็ทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นได้แล้วนะคะ

        นอกจากการทำท่าบริหารร่างกายเป็นประจำแล้ว การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็ช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรง และหน้าท้องสวยเร็วขึ้นด้วยนะคะ แต่ถ้าใครกำลังมองหาตัวช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อหน้าสวยๆ OSIM uCorset  เข็มขัดกระชับสัดส่วน ตัวช่วยในการออกกำลังกาย ด้วยระบบการนวดแบบตบและคลึง ทำให้ไขมันที่หน้าท้อง ก้นและต้นขาแตกตัวและเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อสวยๆขึ้นมาแทน จะอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ก็หยิบมาใส่ได้ตลอดเวลา แถมยังพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกอีกด้วย

ดูรายละเอียดสินค้าหรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ 



6.06.2559

ลดพุง 3 ท่า 10 นาที !!


อยากลดน้ำหนักแต่พอถึงเวลาออกกำลังกายก็ไม่มีเวลา แถมยังทานอาหารไม่ยั้ง แล้วเมื่อไหร่ไขมันจะหายไปน้า...?

เลิกบอกว่าไม่มีเวลาได้แล้วค่ะ เพราะวันนี้เรามีท่าบริหารร่างกาย เพี่ยง 3 ท่า ใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น แต่ต้องขยันทำทุกวันนะคะ อยากสวยต้องอดทน สู้ๆ!!!!!




ท่าที่ 1 Plank

            เริ่มจากการนอนลงไปกับพื้น แล้วชันแขนและขาให้ระนาบกับพื้น จากนั้นให้เกร็งหน้าท้องเอาไว้  หากเริ่มทำครั้งแรก ให้เริ่มจับเวลาที่ 30 วินาที แล้วพัก หลังจากนั้นค่อยๆเพิ่มระยะเวลาให้มากขึ้นเรื่อยๆ


ท่านี้จะทำให้หน้าท้องกระชับ แข็งแรง ออกกำลังกายได้นานขึ้น เมื่อหน้าท้องของเราแข็งแรงจะช่วยซัพพอร์ตและลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อหลังของเรา โดยเฉพาะหลังช่วงบน ในขณะที่เราทำท่า Plank จะสามารถเผาผลาญแคลอรี่ และสร้างกล้ามเนื้อไปพร้อมๆกัน ที่สำคัญท่านี้สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าการซิทอัพด้วยนะคะ 


ท่าที่ 2 Cross Body Mountain Climber

            เตรียมพร้อมด้วยการคว่ำตัวใช้มือและปลายเท้ายันกับพื้น จากนั้นก้าวเท้าไปข้างหน้าที่ละข้างสลับกัน ซ้าย-ขวา โดยใช้ปลายเท้ายันพื้นเหมือนท่าปีนเขา เริ่มแรกอาจจะทำช้าๆไปก่อนแล้วค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆนะคะ ทำครั้งละ 2-3 เซต เซตละ 10-15 ครั้ง

 ท่านี้เป็นท่าบริหารร่างกายที่ครบถ้านสุดๆ เพราะสามารถบริหารกล้ามเนื้อได้ทั่วร่างกาย นอกจากจะช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องแล้ว ยังบริหารกล้ามเนื้อหน้าอก หัวไหล่ หลังแขน ต้นขา น่องให้แข็งแรงเฟิร์มกระชับขึ้นอีกด้วย


ท่าที่ 3 Reverse Crunch

            1.เริ่มต้นจากท่าเตรียมฝึกท่า Reverse Crunch ด้วยการนอนหงายหน้าราบลงบนพื้น วางแขนตรงราบไปกับพื้นข้างลำตัว คว่ำมือลง วางเท้าสองข้างห่างกันเล็กน้อย ตั้งเข่าชันขึ้นมา จากนั้นยกเท้าให้ลอยสูงขึ้นจากพื้นเล็กน้อย

            2.ออกแรงเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อ ดึงหัวเข่าเข้าหาหน้าอก

 3.ค่อยๆ คลายกล้ามเนื้อหน้าท้องออก ลดหัวเข่าลง เพื่อกลับสู่ท่าเตรียม

            ท่านี้จะช่วยบริหารหน้าท้องส่วนล่าง สำหรับสาวๆคนไหน ที่มีไขมันบริเวณหน้าท้องส่วนล่างหมั่นทำท่านี้เป็นประจำ จะทำให้กล้ามหน้าท้องสวยๆมาแทนที่แน่นอนเลยค่ะ

            นอกจากการทำท่าบริหารร่างกายเป็นประจำแล้ว การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็ช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรง และหน้าท้องสวยเร็วขึ้นด้วยนะคะ แต่ถ้าใครกำลังมองหาตัวช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องสวยๆ OSIM uCorset  เข็มขัดกระชับสัดส่วน ตัวช่วยในการออกกำลังกาย ด้วยระบบการนวดแบบตบและคลึง ทำให้ไขมันที่หน้าท้อง ก้นและต้นขาแตกตัวและเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อสวยๆขึ้นมาแทน จะอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ก็หยิบมาใส่ได้ตลอดเวลา แถมยังพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกอีกด้วย

ดูรายละเอียดสินค้าหรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ http://www.osim.com/TH/category/slim_belts






6.02.2559

ปวดหลังยกมือขึ้น!!


OSIM มีคำถาม ใครปวดหลังเพราะนั่งทำงานเป็นเวลานานๆยกมือขึ้น!!!?

ปัญหาของคนที่ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกวัน คงหนีไม่พ้นอาการปวดหลัง แล้วรู้หรือเปล่าคะ ว่าสาเหตุของอาการปวดหลังของเรานั้น ก็มาจากการนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน และยิ่งไปกว่านั้น หากปล่อยให้ปวดเป็นเวลานานๆ หรือนั่งแบบผิดๆต่อไป อาจจะทำให้กลายเป็นโรคเส้นประสาทถูกกดทับได้อีกด้วย เมื่อรู้แบบนี้แล้วเรามาเปลี่ยนท่านั่งทำงานไปพร้อมๆกันเลยค่ะ


1.ขณะนั่งพิมพ์งานควรปรับความสูงของเก้าอี้ให้ข้อศอกอยู่ในองศาที่ตั้งฉากกับโต๊ะ และควรจะให้แขนแนบลำตัวให้มากที่สุด

2.ปรับระดับจอคอมพิวเตอร์โดยให้อยู่ในระดับสายตา และใช้คางเป็นจุดกึ่งกลางของจอคอมพิวเตอร์

3.ไม่นั่งหลังค่อม เพราะการนั่งหลังค่อมนอกจากจะทำให้ปวดหลังและยังเสียบุคลิกภาพด้วยนะคะ ดังนั้นเราปรับระดับเก้าอี้ให้อยู่ในระดับที่เราสามารถนั่งหลังตรงได้ แล้วปรับมุมของเก้าอี้ให้ลดต่ำลง ให้มีช่องว่างระหว่างเข่าและขอบเก้าอี้ประมาณ 1 - 2 นิ้วมือ เพื่อลดความดันที่ขา


4.หาหมอนสักใบมาช่วยหนุนหลังช่วงล่าง เพื่อลดอาการปวดหลังช่วงล่างและสะโพก

5.ขยับร่างกายทุกๆ 20 นาที ด้วยการเงยหน้ามองเพดานแล้วยืดอกขึ้น และหมุนไหล่ไปด้านหลัง เพราะเวลานั่งทำงานตัวของเราจะโน้มไปทางด้านหน้า


6.หมั่นบริหารร่างกาย ยืดเส้นยืดสายบ่อยๆ ด้วยวิธีง่าย ๆ แค่เอียงศรีษะไปทางซ้ายและขวา ก้มหน้าให้คางชิดหน้าอกให้มากที่สุด แล้วเงยหน้าขึ้น ทำค้างไว้ท่าละ 10 วินาที ทำช้าๆนะคะ ถ้าทำเร็วแล้วคอเคล็ดขึ้นมาอย่าหาว่าไม่เตือนนะคะ

7.ถ้าหากเป็นคนตัวเล็ก มีช่วงขาสั้นเกินไป ให้ลองหาอะไรมาวางเท้า ก็ช่วยให้คุณไม่ปวดหลังได้นะคะ

เอาล่ะค่ะ อ่านจบแล้วลองกลับไปปรับไปทำตามกันนะคะ รับรองว่าต้องช่วยให้อาการปวดหลังลดลงแน่นอนค่ะ แต่ถ้าหากใครสนใจอยากได้ผู้ช่วยในการนวดล่ะก็ OSIM ขอ แนะนำ uCaress 3 D เบาะนวด 3 มิติ ที่สามารถเปลี่ยนเก้าอี้ทำงานธรรมดาของทุกๆคนให้กลายเป็นเก้าอีนวดได้ในทันที


 เพราะ uCaress 3 สามารถนวดได้ถึง 3 รูปแบบ คือ นวดกดจุด นวดบีบ และนวดยืดเส้น รวมทั้งระบบทำความร้อนแผ่กระจายทั่วแผ่นหลัง ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้การทำงานของคุณเป็นการทำงานที่พิเศษขึ้นแน่นอน 


ดูรายละเอียด หรือสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ที่
 http://www.osim.com/TH/category/back_massagers




5.30.2559

บ้านสวยด้วยสี MAROON




        OSIM วันนี้! ขอเลือก Item ในการตกแต่งบ้านเป็นเก้าอี้นวด OSIM uDiva สุดโมเดิร์น
ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ตามสไตล์ แค่กดรีโมท !!

        อยากนั่งจิบกาแฟชิลๆยามเช้าก็ดี๊ดี
ปรับนอนอ่านหนังสือฟังเพลงยามบ่ายก็เพลินสุด!
หรือถ้าอยากพักผ่อนจากความเมื่อยล้ามาทั้งวันก็ปรับโหมดนวดได้เลย..
อยากจะบอกว่า เจ้าเก้าอี้นวด OSIM uDiva เนี๊ย นวดดีสุดๆ เหมือนมีคุณแฟนมานวดให้เลยแหละ


        เอาล่ะ ด้วยสีสันของเก้าอี้นวดตัวนี้ คือ สี MAROON เป็นโทนสีแดงเข้ม หรือแดงน้ำตาล
หากเราใช้ผนังห้องด้วยสีนี้ จะทำให้บรรยากาศในบ้านอบอุ่น และดูมีพลังในเวลาเดียวกัน 



        แต่ถ้าหากชอบผนังห้องสีสว่างๆ ลองใช้เฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็น เก้าอี้ โซฟา ผ้าปูที่นอน เป็นโทนสีแดงเข้ม ก็ดูเข้ากั๊น เข้ากัน ทีเดียว


        หรือจะใช้ของตกแต่งบ้านชิ้นเล็กๆ เข่น หมอน เทียน กล่องใส่ของ หรือแม้กระทั้งหมวกใบสวย ที่เป็นโทนสีแดงเข้ม ก็ทำให้บ้านดูมีสเน่ห์ และดึงดูดสายตาได้ไม่น้อยเลย


        ขอบคุณภาพจาก  https://www.pinterest.com/

        เห็นไหมล่ะ ว่าสีแดงก็สามารถนำมาใช้ตกแต่งบ้านได้สวยงามไม่แพ้สีอื่นๆ 
เห็นแบบนี้แล้วคิดออกหรือยังคะว่าจะเอาเก้าอี้นวด OSIM uDiva ไปตั้งไว้ตรงมุมไหนของบ้านดี
แต่ OSIM ขอบอกเลยค่ะ ไม่ว่าจะเอาไปตั้งไว้ตรงไหน ก็นั่งสบายสุดๆไปเลย! 



ดูรายละเอียดสินค้าหรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ http://www.osim.com/TH/home.aspx

2.05.2559

ทำไมต้องจัดบ้านใหม่ก่อนวันตรุษจีน

ในช่วงเทศกาลตรุษจีนมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า เราต้องทำความสะอาดสถานที่ทำงาน  ที่พักอาศัย ก่อนตรุษจีน เพราะในช่วงตรุษจีนเราจะไม่ทำความสะอาดบ้านกันแล้ว ซึ่งเรื่องนี้มันมีที่มาค่ะ



ตามความเชื่อของคนจีนนั้นจะถือว่า วันที่ 23 เดือน 12 จนถึงวันสิ้นปีตามปฏิทินจันทรคติว่า วันแห่งการต้อนรับปีใหม่ หรือ วันแห่งการปัดกวาด ซึ่งถือเป็น การทำความสะอาดบ้าน ครั้งใหญ่ ซึ่งถ้าบรรดาเด็ก ๆ ไปถามผู้ใหญ่ว่าทำไมต้องจัดบ้านครั้งใหญ่ก่อนตรุษจีนท่านก็อาจจะบอกว่า เพราะโบราณเค้าถือว่าในวันตรุษจีน เราจะไม่ทำความสะอาดกันแล้วอย่างไรล่ะ ซึ่งเด็ก ๆ ก็เชื่อตามนั้นและไม่เซ้าซี้ถามต่ออีก แต่เชื่อหรือไม่ว่า เกี่ยวกับความเชื่อนี้นั้น มีตำนานที่กล่าวถึงความเชื่อนี้อยู่ด้วยค่ะ ซึ่งตำนานที่ว่านั้นกล่าวเอาไว้ว่า

คนโบราณเชื่อว่าตามร่างกายของคนเรา มีเทพอาศัยอยู่ เรียกว่า ” เทพซานซือ ” (三尸神)



เป็นเทพ 3 องค์ องค์หนึ่งอยู่ที่หัว องค์หนึ่งอยู่ที่ท้อง อีกองค์ อยู่ที่เท้า เทพ 3 องค์นี้เป็นเหมือนเงาตามตัวของมนุษย์ ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่สามารถสลัดหลุดได้ เทพซานซือ เป็นเทพที่ ขี้ประจบประแจง แต่มักนินทาว่าร้ายมนุษย์อยู่เป็นนิจ เพ็ดทูลแต่เรื่องร้ายๆ ของมนุษย์ต่อ เง็กเซียนฮ่องเต้ นานวันเข้าจนเง็กเซียนฮ่องเต้ หลงเชื่อว่า โลกของพวกมนุษย์ เต็มไปด้วยความสกปรกโสมมอย่างมาก
มีครั้งหนึ่ง เทพซานซือได้เพ็ดทูลว่า มนุษย์นั้นสาปแช่งพระองค์อยู่

และมีแผนล้มล้างบัลลังก์สวรรค์อย่างลับๆ เง็กเซียนฮ่องเต้โกรธมาก สั่งให้ตรวจสอบเรื่องราว การกระทำผิดของมนุษย์ดังกล่าว ให้ชัดเจนโดยเร็ว โดยให้แมงมุมชักใย เป็นเครื่องหมาย ไว้ที่ใต้หลังคาบ้านของมนุษย์ที่โกรธแค้น หรือไม่เคารพเหล่าทวยเทพ และยังมอบหมายให้ ” เทพหวังหลิงกวาน ” (王灵官) มายังโลกมนุษย์ในคืนสิ้นปี หากพบเจอสัญลักษณ์ที่บ้านของใคร ก็ให้ประหารคน ในบ้านทั้งหมด
เทพซานซือเห็นว่าแผนการดูจะเป็นไปตามที่คิด จึงรีบฉวยโอกาสลงมายังโลกมนุษย์ ทำใยแมงมุม ปกคลุม ที่มุมบ้านทุกหลัง

ไม่ว่าจะทำผิด หรือไม่ก็ตาม เพื่อที่จะได้ถูกเทพหวังหลิงกวานประหาร ไปเสียให้สิ้นซาก เจ้าเตาไฟรู้ถึง แผนการชั่วนี้ จึงรีบหาทางรับมือได้มาวิธีหนึ่งก็คือ ในช่วงเวลาที่เจ้าเตาไฟขึ้นสวรรค์ไปเข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ (ตั้งแต่วันที่ 23 เดือน 12 จนถึงวันสิ้นปีตามปฏิทินจันทรคติ) จนถึงก่อนเจ้าเตาไฟจะกลับมา มนุษย์ทุกคนต้องปัดกวาด บ้านช่องให้สะอาด ไม่ให้มีแม้แต่ฝุ่น ไม่อย่างนั้นเจ้าเตาไฟ จะไม่เข้าบ้านเด็ดขาด มนุษย์ทุกคนทำตาม คำของเจ้าเตาไฟอย่างดี ทำความสะอาดบ้านจนใหม่เอี่ยม
พอถึงเวลาที่เทพหวังหลิงกวานลงมาตรวจสอบ ก็พบบ้านช่องของมนุษย์ ล้วนสะอาดสะอ้านสวยงาม

ผู้คนต่างยิ้มแย้ม มีความสุข และไม่พบเครื่องหมาย ที่แสดงถึงพฤติกรรมอันชั่วร้ายเลย จึงรีบกลับสวรรค์ นำเรื่องที่มนุษย์พร่ำภาวนา ให้ปีใหม่ มีแต่ความสุขความเจริญ ขึ้นไปรายงานต่อเง็กเซียนฮ่องเต้

เมื่อพระองค์ทราบเรื่องก็กริ้วเทพซานซือมาก สั่งให้จับตัวมาลงโทษ และส่งไปขังไว้ที่คุกสวรรค์ตลอดกาล เคราะห์ร้าย ของมนุษย์ครั้งนี้ ดีที่มีเจ้าเตาไฟช่วยไว้จึงรอดพ้นมาได้ เพื่อตอบแทนบุญคุณนี้ หลังจากส่งเจ้าเตาไฟขึ้นสวรรค์ ผู้คนจึงเริ่ม ทำความสะอาดบ้านเรือนของตนจวบจนถึงคืนวันสิ้นปีเรื่อยมาจนถึงบัดนี้



Cr. http://www.cleanplusthailand.com

-------------------------------------------------------------------------


Home Demo Service : บริการฟรีดีๆจาก OSIM เพื่อคุณที่อยากทดลองเก้าอี้นวดของเราที่บ้านของคุณเอง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 7174648

Click - Here - For Information

1.29.2559

ตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ สำคัญกับหลักฮวงจุ้ยอย่างไร

แต่งบ้านอย่างไรให้ถูกหลักฮวงจุ้ย เป็นคำถามที่ไม่ว่าใครก็คงอยากรู้คำตอบ ไม่ว่าจะเป็นสี หรือของมงคล รวมไปถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ก็สำคัญไม่แพ้กัน

เราจะจัดเฟอร์นิเจอร์ในห้องรับแขกอย่างไรให้ถูกหลักฮวงจุ้ยไปดูกัน

1. ตู้โชว์ภายในห้องรับแขกควรจัดวางในตำแหน่งรุ่งเรืองและส่งเสริมพื้นดวงของเจ้าของบ้านด้วย เช่น ถ้าเจ้าของบ้านขาดธาตุน้ำก็ควรวางตำแหน่งตู้โชว์ทางทิศเหนือ


2. ชุดรับแขกหรือโซฟา ควรจัดให้อยู่ในบริเวณเดียวกับตู้โชว์ โดยอาศัยหลักการที่ว่าเจ้าของขาดธาตุใดหรือต้องการเสริมธาตุใดก็ควรวางโซฟาไว้ในทิศทางนั้นๆ เนื่องจากการจัดวางตู้โชว์และโซฟาเปรียบเสมือนภูเขาที่รับลมจากน้ำ และเป็นพลังหยิน คือความนิ่งนั่นเอง จะบ่งบอกถึงความมั่นคงหนักแน่นที่จะช่วยเสริมบารมีให้แก่เจ้าของบ้านได้ ในขณะเดียวกัน ประตูเข้าห้องรับแขกก็เปรียบเสมือนพลังหยาง เป็นการรับลมจากฟ้าหรือรับกระแสชี่ให้ไหลเวียนเข้ามาด้วยเช่นกัน

3. หลีกเลี่ยงการนำฉากมาตั้งไว้ตรงประตูทางเข้า เพราะเป็นการสกัดกั้นการไหลเวียนของกระแสของโชคลาภที่จะไหลเวียนเข้ามาภายในบ้าน

4. ไม่ควรติดกระจกหรือวัสดุสะท้อนแสง หน้าบ้านเพราะจะเป็นการสะท้อนแขก และสิ่งดีๆออกไป

5. ตำแหน่งของที่ตั้งตู้ปลา ในทางฮวงจุ้ยเปรียบเสมือน “น้ำ” มีบทบาทสำคัญในการเก็บกักกระแสชี่ ดังนั้นการวางตู้ปลาจึงควรอยู่ในตำแหน่งโชคลาภ ซึ่งได้แก่ตำแหน่งที่อยู่ตรงข้ามประตู หรือด้านที่ทแยงกับมุมของประตูห้องรับแขกทั้ง 2 ด้าน




Cr. http://horoscope.sanook.com



-------------------------------------------------------------------------



Home Demo Service : บริการฟรีดีๆจาก OSIM เพื่อคุณที่อยากทดลองเก้าอี้นวดของเราที่บ้านของคุณเอง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 7174648

Click - Here - For Information

1.22.2559

ตกแต่งบ้านตามหลักฮวงจุ้ยในวันตรุษจีน





สีและการจัดวางที่ถูกต้อง ช่วยนำพลังงานฉี้ (พลังงานจักรวาลในเชิงบวก) เข้ามาในบ้าน ให้ใช้ของประดับตกแต่งเป็นสีขาวและสีสว่างตกแต่งทางทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้าน ส่วนตรงส่วนกลางของบ้านให้ตกแต่งด้วยของตกแต่งสีสันเจิดจ้า เพราะส่วนกลางของบ้านถือเป็นบริเวณที่ดีที่สุดตามหลักฮวงจุ้ย






1. สีและการจัดวาง
สีและการจัดวางที่ถูกต้อง ช่วยนำพลังงานฉี้ (พลังงานจักรวาลในเชิงบวก) เข้ามาในบ้าน ให้ใช้ของประดับตกแต่งเป็นสีขาวและสีสว่างตกแต่งทางทิศเหนือและทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้าน ส่วนตรงส่วนกลางของบ้านให้ตกแต่งด้วยของตกแต่งสีสันเจิดจ้า เพราะส่วนกลางของบ้านถือเป็นบริเวณที่ดีที่สุดตามหลักฮวงจุ้ย

2. โคมไฟสีแดง
การตกแต่งบ้านตามหลักฮวงจุ้ยในวันตรุษจีนจะไม่สมบูรณ์แน่ๆ ถ้าไม่มีโคมไฟสีแดง ลองหาโคมไฟสีแดงในแบบที่คุณชอบ หรือที่เหมาะกับบ้านของคุณดูค่ะ

3. อย่าวางของเหนือกระจกในห้องนอน
พยายามอย่าวางของตกแต่งเหนือกระจกในห้องนอน หรือวางให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ การวางของไว้เหนือกระจกบนห้องนอนจะนำมาซึ่งความเหนื่อยยากในครอบครัวของคุณ

4. การตกแต่งห้องทานอาหาร
ใช้อุปกรณ์ทานอาหาร ถ้วย ชาม ช้อน ส้อม เป็นสีทองและสีขาว พร้อมสีแดงด้วย ส่วนอุปกรณ์ตกแต่งควรเป็นสีทองและสีขาว นอกจากนี้ควรวางส้มจีนตรงกลางโต๊ะทานอาหาร สีสันที่สดใสจะนำมาซึ่งความสุขและโชคดีให้กับครอบครัว

5. เทียน
ลองนำเทียนมาวางตกแต่งบ้านในช่วงตรุษจีนกันดูค่ะ เชื่อกันว่าเทียนจะนำมาซึ่งพลังงานด้านบวกและทำให้คุณได้พบเจอแต่คนดี ๆ เทียนสีโทนฟ้าจะนำความสงบมาสู่บ้านของคุณ โทนสีเหลืองนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีสำหรับปีใหม่ ส่วนโทนสีแดงจะช่วยเพิ่มพลังงาน เทียนทั้งสามสีนี้เมื่อนำมาตกแต่งรวมกันจะยิ่งช่วยนำพลังงานที่ดีเข้ามาในบ้านของคุณ




Cr. http://th.theasianparent.com

-------------------------------------------------------------------------



Home Demo Service : บริการฟรีดีๆจาก OSIM เพื่อคุณที่อยากทดลองเก้าอี้นวดของเราที่บ้านของคุณเอง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 7174648

Click - Here - For Information